วัดแม่พระถวายพระกุมารในพระวิหาร บ้านห้วยเล็บมือ
ต. หนองเดิ่น อ.บุ้งคล้า จ.หนองคาย
ตู้ ป.ณ.5 อ. บึงกาฬ จ. หนองคาย 43140 โทร. 081 – 9744662
ชาวบ้านห้วยเล็บมือ เดิมอพยพมาจากหมู่บ้านพงวินแขวงคำม้วน ตอนใต้ประเทศลาวเป็นชนเผ่าไทยเทิง (ภาษาพื้นบ้านเรียกว่า พวกข่า) เมื่อเกิดสงครามศึกฮ่อขึ้นชาวบ้านก็ต้องอพยพหนี บางกลุ่มถูก
จับไปเป็นทาส และต่อมา คุณพ่อเดอลาเลกซ์ ชาวฝรั่งเศสได้ไถ่พวกเขาให้เป็นอิสระนายหลวงเสาะก่าน,
นายเพียท้าวดีและนายเพียชัย คุณสิงห์ ได้พากันชักชวนพี่น้องชาวไทเทิงจำนวนหนึ่ง ล่องแพมาตามลำน้ำหินบูน (ซึ่งไหลลงสู่แม่น้ำโขง ตรงข้ามอำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนมในปัจจุบัน) พักอยู่ที่ปากแม่น้ำหินบูนระยะหนึ่ง แล้วล่องแพทวนน้ำโขงขึ้นมาจนถึงบ้านห้วยเซือมอยู่ที่นั่น 2 ปี เพราะเห็นว่าไม่เหมาะจึงย้ายลงมา
อยู่ที่ท่าศาลา (ปัจจุบันเป็นป่าช้าพุทธ หมู่บ้านหนองคังคา) อยู่ที่นี่2ปี เห็นว่าไม่เหมาะในการทำมาหากิน
จึงย้ายขึ้นมาอยู่ที่หมู่บ้านภูทอก ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นหมู่บ้านห้วยเล็บมือหมู่บ้านห้วยเล็บมือปัจจุบัน
ขึ้นกับตำบลหนองเดิ่นกิ่งอำเภอ บุ่งคล้าจังหวัดหนองคายแรกเริ่มตั้งหมู่บ้านมีประมาณ20 หลังคาเรือน
ปัจจุบันมี46หลังคาเรือน65ครอบครัวประชากรทั้งสิ้น 315คนหมู่บ้านแห่งนี้จะต้องมีผู้อยู่อาศัยจำนวนมากกว่านี้ แต่ทั้งนี้เป็นเพราะชาวบ้านจำนวนหนึ่ง (ประมาณ25ครอบครัว) ได้พากันย้ายไปตั้งถิ่นฐานไปทำ
มาหากินที่บ้านภูสวาท ซึ่งห่างจากหมู่บ้านเดิมประมาณ3 กิโลเมตร (ติดกับทางหลวง)ชาวไทเทิงมีอาชีพสืบต่อกันมาคือการทำไร่ตามภูเขาดังคำพูดที่ว่า “ภูสูงไว้ให้ข่า นากว้างไว้ให้ลาว” ปัจจุบันชาวบ้านยังยึดอาชีพทำไร่ และทำนาเสริมอีกด้วย
ความเจริญในอดีตที่พอจะกล่าวถึงก็คือเมื่อประมาณ 45 ปีที่แล้ว มีโรงเรียนหลังแรกซึ่งมีครูกาจากบ้านหนองบัวลำภู จังหวัดอุดรธานี เป็นผู้ดูแลตั้งอยู่ที่บ้านพักพระสงฆ์ในปัจจุบัน(ตอนนั้นเป็นสงครามอินโดจีนจึงไม่มีพระสงฆ์พักประจำ) ใช้ประมาณ 3ปี จึงย้ายไปตั้งอยู่ ณ โรงเรียนบ้านห้วยเล็บมือในปัจจุบัน
หมู่บ้านห้วยเล็บมือเป็นหมู่บ้านคาทอลิกมาตั้งแต่เริ่มแรก ตั้งแต่คุณพ่อเดอลาเล็กซ์ได้ไถ่พวกเขาให้เป็นอิสระ และปลูกฝังความเชื่อให้แก่ผู้สนใจนับถือศาสนา และในจำนวนนี้กลุ่มหนึ่งได้อพยพย้ายถิ่นฐานหากินจนมาหยุดอยู่ ณ สถานที่แห่งนี้ ซึ่งความเชื่อถือในอดีตได้ถ่ายทอดกันมาจนถึงปัจจุบัน คุณภาพชีวิตของชาวบ้าน และความเจริญทางศาสนา ได้เข้ามาโดยทางพระสงฆ์ผู้แพร่ธรรมตามลำดับดังนี้
- คุณพ่อเดอลาเล็กซ์ ได้ข้ามมาจากฝั่งลาว มาทำมิสซาให้เป็นครั้งคราว ใช้บ้านชาวบ้านเป็นศูนย์รวม
- คุณพ่อมารียนต์ รับช่วงต่อมาจนมรณกรรม
- คุณพ่อซาพีแน้ง ซึ่งอยู่ที่บ้านแก้งต้องรับหน้าที่ดูแลแทนทุกครั้งที่จะข้ามมาทำพิธี ท่านจะเป่าแตรเพื่อเป็นสัญญาณให้ชาวบ้านไปรับ คุณพ่อได้สร้างวัดหลังแรกขึ้น (ที่ทำการ ซี.ซี.เอฟ. ปัจจุบัน) โดยใช้เสาไม้ ฝาไม้ไผ่และขี้ควายผสมปูนขาวโบกต่างซีเมนต์ ต่อมาได้สร้างบ้านพักพระสงฆ์หลังปัจจุบัน (ซึ่งได้ต่อเติมในสมัย
ของคุณพ่อองค์ต่อๆมา) สร้างกำแพงรอบบ้านพัก ภายในปลูกมะนาวและเผือกมันชั้นบนใช้เป็นวัด 1 ส่วน
และห้องนอน1 ส่วนกรณีพิพาทอินโดจีน คุณพ่อซาพีแน้ง ต้องไปอาศัยอยู่ฝั่งลาวเพื่อความปลอดภัย
การเบียดเบียนเข้ามาแทนที่ตำรวจได้นำ “ปลัดเมธ” (คำว่าปลัด : พระผู้ใหญ่)ซึ่งประจำอยู่ที่บึงกาฬ มาที่หมู่บ้านห้วยเล็บมือชักชวนชาวบ้านมาฟังเทศน์ ให้ละทิ้งศาสนาคาทอลิกประมาณ2 ปีต่อมีคุณพ่อแท่ง
จากบ้านดอนโดน (ประเทศลาว) มาบอกชาวบ้านว่าการเบียดเบียนศาสนาได้จบสิ้นแล้ว แต่ชาวบ้านยังไม่มั่นใจ เพราะกลัวว่าจะเป็นเหมือนห้วยเซือมที่มีคนมาบอกเช่นกันขณะนั้น ในหมู่บ้านมีประมาณ25ครัวเรือนคุณพ่อมา3เดือนครั้ง มาอยู่ครั้งละประมาณ 1 สัปดาห์
- คุณพ่อคาร โสรินทร์ มาฟื้นฟูศาสนา ตักเตือนให้กลับคืนสู่ความเชื่อดังเดิม
- ในสมัยคุณพ่อศรีนวล ศรีวรกุลชาวบ้านกลับคืนสู่ศาสนามากขึ้น เพราะค่อนข้างจะแน่ใจและยังมั่นใจ
(ละทิ้งผี) มากที่สุดว่าศาสนาคืนมาแล้ว เมื่อคุณพ่อได้พาคุณพ่อดูฮาร์ตมาด้วย (ชาวบ้านเห็นเป็นฝรั่งจึงมั่นใจว่าศาสนาคืนมาแน่)
- คุณพ่อดูฮาร์ดทำหน้าที่ดูแลแทน โดยมาอยู่ที่ห้วยเล็บมือ1สัปดาห์ และอยู่ที่ห้วยเซือมอีก1สัปดาห์ต่อมามอบหน้าที่ให้คุณพ่อลีแอร์ แต่คุณพ่อพลาดตกสะพานแขนหักต้องไปรักษาตัวท่านดูฮาร์ดซึ่งจากไป1 ปีเต็มก็ต้องกลับมารับหน้าที่แทนอีกครั้งหนึ่งท่านดูฮาร์ดพาคุณพ่อโกโตรมาด้วย คุณพ่อไปมาระหว่างบ้านเวียงคุก กับห้วยเล็บมือ และอยู่ที่บ้านห้วยเล็บมือครั้งละ1 เดือนดูแลประมาณ 2 ปี จึงได้สร้างวัดหลังปัจจุบันขึ้น
- คุณพ่อโบลินรับช่วงต่อ ช่วงนี้ชาวบ้านต้องประสบปัญหาเรื่องน้ำท่วมไร่นาทุกปี โดยเฉพาะในปี 2509 ซึ่งร้ายแรงที่สุด คุณพ่อนั่งเครื่องบินมาประกาศว่าจะไม่ได้มาจนกว่าน้ำจะแห้ง ขณะเดียวกันก็นำสิ่งของมาช่วยบรรเทาทุกข์ โดยเฉพาะข้าวสาร คุณพ่อไม่ได้ให้ฟรีๆ แต่ให้ไปขนหินขนทรายจากฝั่งโขงขึ้นมาไว้ซ่อมแซมดัดแปลงวัก คิวละ1 กระสอบ
- คุณพ่อดิ๊กสตร๊าส เป็นคุณพ่อที่อยู่ประจำ เป็นผู้นำความเจริญทางการเกษตรมาให้ ได้แก่แตงกว่าลาย
พันธุ์อเมริกัน ลำไยมะม่วงและมันสำปะหลังซึ่งไปซื้อพันธุ์มาจากบ้านโนนสา เป็นต้น ขณะนั้นในหมู่บ้าน
มีประมาณ 60หลังคาเรือน
- คุณพ่อไมเกิล เช“หมอชาวบ้าน” ผู้ลือชื่อจนถูกโรงพยาบาลประท้วง และตำรวจห้ามให้เพลาลงบ้างทั้งนี้เพราะทั้งพุทธคริสต์จากใกล้ไกลนิยมคุณพ่อมาก ไม่นิยมไปโรงพยาบาลบึงกาฬคุณพ่อต้องดูแลห้วยเซือมด้วยในส่วนของวัดห้วยเล็บมือนั้น ได้ให้บราเดอร์คอร์นี่ จัดทำรูป14ภาคติดฝาผนังม้านั่งในวัด และฝาวัด
- คุณพ่อเล้ง โคธิเสนยุคน้ำไหลไฟสว่างมาถึงแล้ว คุณพ่อนักพัฒนาได้ร่วมกับชาวบ้านซื้อเครื่องจากโรงสีนายศรีฟอง คุณสิงห์ และดัดแปลงเป็นเครื่องทำไฟฟ้า เพื่อบริการให้ชาวบ้าน คิดค่าบริการหลอดละ18บาทต่อเดือนบริการตั้งแต่18.00น.ถึง 21.00น.
- คุณพ่อวราศักดิ์ บูรณพลโครงการซี.ซี.เอฟ. ช่วยบรรเทาความยากจนของชาวบ้านได้เกิดขึ้นมีสำนักงานอยู่ติดฝั่งโขง ในหมู่บ้านมี41 หลังคาเรือนโครงการเพื่อหารายได้เพิ่มพูนได้เกิดขึ้น เช่นโครงการประมงโครงการปลูกกระเทียม เป็นต้น
- คุณ พ่อเล้ง กลับมาเป็นเจ้าอาวาสอีกครั้ง มี คุณพ่อบุญรอด เวียงพระปรกมาเป็นผู้ช่วยประจำที่หมู่บ้าน ประมาณ1 ปี จึงย้ายวัดไปห้วยเซือม
- คุณพ่อปรีดาโอนากุลมาอยู่ต่อประมาณ3เดือน
- คุณพ่อพิชาญใจเสรีมาประจำได้สร้างถ้ำแม่พระบริเวณหน้าวัดสวยงามมาก
- คุณพ่อชูชาติ ศรีวิชัยรัตน์ได้บูรณะซ่อมแซมวัดครั้งใหญ่ เปลี่ยนหลังคาใหม่ทาสีวัดและยังหาเงินสร้างสนามกีฬา สำหรับเยาวชนและเด็กๆทำกำแพงอิฐบล็อกรอบวัด
- พ.ศ. 2539 คุณพ่อโกวิทย์ เจริญพงศ์ เป็นเจ้าอาวาส
- พ.ศ. 2540 คุณพ่ออำนวยศิลป์ ทองอำไพ เป็นเจ้าอาวาส
- พ.ศ. 2541 คุณพ่อจักรายุทธ ปาละลี เป็นเจ้าอาวาส
ปัจจุบัน คุณพ่อเปโตร วินัย แสนงาม เป็นเจ้าอาวาส